พระนิรันตรายปี 2506 หลวงพ่อโชติ (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร นครราชสีมา อดีตชาติของหลวงพ่อโชติเป็นพี่ชายมารดาของท่านในชาติปัจจุบัน เมื่อถึงแก่กรรมแล้วด้วยความรักน้องสาว จึงเกิดมาเป็นลูกน้องสาวของท่านในชาตินี้ท่านสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของท่านได้จนมีผู้เรียกท่านว่า “ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” พระนิรันตรายหลวงพ่อโชติมีพิมพ์ เล็ก-ใหญ่ องค์นี้พิมพ์เล็ก ขนาด 1.3 x 2.5 ซม. 600.- บาทครับ. http://www.winitcq.com
… เกร็ดประวัติของพระเทพสุทธาจารย์ (โชติ คุณสัมฺปนฺโน) ท่านระลึกชาติก่อนได้ 1 ชาติ” หลวงพ่อโชติเมื่อชาติก่อนท่านมีชื่อว่า “เล็ง ” บิดาชื่อ “วา“ มารดาชื่อ “มา” เกิดที่สุรินทร์ มีน้องหลายคน น้องคนรองเป็นหญิงชื่อเหรียญสนิทกันมากกว่าคนอื่น พ.ศ.2451 นายเล็งอายุได้ 55 ปี ก็เกิดเจ็บป่วยตั้งแต่เดือน 8 จนถึงเดือน 11 ตกดึก 12 ต.ค. 2451 นางเหรียญคลอดบุตร นายเล็งทรุดหนักเมื่อทราบข่าวก็อยากไปเยี่ยมนางเหรียญบ้าง ทันใดนั้นก็รู้สึกมีอาการคล้ายกับว่าเคลิ้มสบายแล้วผลอยหลับไป มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่ก็แปลกจะพูดกับใครก็ไม่มีใครพูดด้วย ไม่มีใครหันมามอง สักครู่ใหญ่ญาติคนหนึ่งมาคลำดูที่ปลายเท้านายเล็งจึงทราบว่านายเล็งตายเสียแล้ว นายเล็งตายเมื่อแรม 3 ค่ำเดือน 11 เวลา 15 น. ตั้งศพ 2 วันเผาเสร็จสองทุ่มแยกย้ายกลับบ้าน นายเล็งก็คิดอยากจะไปเยี่ยมนางเหรียญ ซึ่งคลอดลูกกำลังอยู่ไฟ พอนึกเท่านั้นก็ปรากฏว่าไปถึงบ้านนางเหรียญทันที เมื่อถึงบ้านก็เห็นนางเหรียญกำลังนอนกกลูกน้อย เมื่อเห็นทารกนายเล็งก็รู้สึกชอบใจในขณะที่นายเล็งยืนดูทารกอยู่นั้น นางเหรียญตื่นลืมตาเห็นนายเล็งพอดี นายเล็งก็ยิ้มให้ แต่คราวนี้แปลกนางเหรียญกลับเห็นนายเล็ง นางได้พูดว่า “คุณพี่ไปคนละทิศละทางแล้ว ที่ไหนสบายก็เชิญไปตามสบายเถอะ อย่ามารบกวนน้องเลย” นายเล็งรู้สึกละอายใจมากจึงตัดสินใจกลับ แต่พอกลับตัวเท่านั้นก็รู้สึกหมุนติ้วเหมือนลูกข่างไม่ทราบว่ากี่รอบแล้วก็หมดความรู้สึกไปแค่นั้น มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อทารกนั้นพลิกคว่ำพลิกหงายได้ แต่ยังพูดจาไม่ได้ แต่เมื่อเห็นใครที่เคยรู้จักในชาติก่อนก็จำได้ อยากจะพูดกับเขา แต่ก็พูดไม่ได้ เพียงแต่ยกมือและพูดอ้อแอ้ได้เท่านั้น ต่อมาเมื่อพูดได้ก็บอกความจริง ว่าตนคือนาย “เล็ง” ไม่ใช่ชื่อ “โชติ” ดังชาติในชาติปัจจุบัน เป็นลูกของ “พ่อวา แม่มา” ไม่ใช่ “แม่เหรียญ พ่อแป๊ะ” ในชาติปัจจุบัน เมื่อมีคนมาถามว่าชื่ออะไร ก็ตอบว่า “ชื่อนายเล็ง” บ้านอยู่ที่ไหนก็ชี้ถูก มีภรรยาชื่ออะไร ก็ตอบว่า “ชื่อปุ่ม” มีลูกกี่คนก็ตอบว่า “สามคน” เป็นหญิงหรือชาย ก็ตอบว่า “หญิงทั้งหมด” อีกทั้งนางเหรียญก็เคยเล่าให้ญาติ ๆ ฟังว่า เมื่อคืนวันแรม 5 ค่ำเดือน 11 หลังจากฌาปนกิจศพของนายเล็งแล้วคืนนั้นได้เห็นนายเล็งมาปรากฏตัว จึงทำให้คนเชื่อว่า เด็กชายโชติคือนายเล็งมาเกิดและเด็กชายโชติไม่เรียกนางเหรียญว่าแม่แต่เรียกว่าน้อง ส่วนยายก็เรียกว่าแม่ และลูกสาว 3 คนในชาติก่อน จะเรียกเด็กชายโชติว่าพ่อ ถ้าเรียกว่าน้องเด็กชายโชติจะโกรธถึงกับด่าให้เลย เพิ่งจะมาเปลี่ยนมานับถือแบบชาติปัจจุบันเมื่อได้บวชแล้ว แต่ก็ยังพอใจให้ลูกทั้ง 3 คนเรียกว่าพ่อในชาติปัจจุบัน
“ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” มรณะภาพเมื่อ 24 มี.ค.2517 ที่วัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร อ.ปากช่อง นครราชสีมา.
พระนิรันตรายปี 2506 หลวงพ่อโชติ (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร นครราชสีมา
฿600.00
พระนิรันตรายปี 2506 หลวงพ่อโชติ (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร นครราชสีมา อดีตชาติของหลวงพ่อโชติเป็นพี่ชายมารดาของท่านในชาติปัจจุบัน เมื่อถึงแก่กรรมแล้วด้วยความรักน้องสาว จึงเกิดมาเป็นลูกน้องสาวของท่านในชาตินี้ท่านสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของท่านได้จนมีผู้เรียกท่านว่า “ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” พระนิรันตรายหลวงพ่อโชติมีพิมพ์ เล็ก-ใหญ่ องค์นี้พิมพ์เล็ก ขนาด 1.3 x 2.5 ซม. 600.- บาทครับ. http://www.winitcq.com
… เกร็ดประวัติของพระเทพสุทธาจารย์ (โชติ คุณสัมฺปนฺโน) ท่านระลึกชาติก่อนได้ 1 ชาติ” หลวงพ่อโชติเมื่อชาติก่อนท่านมีชื่อว่า “เล็ง ” บิดาชื่อ “วา“ มารดาชื่อ “มา” เกิดที่สุรินทร์ มีน้องหลายคน น้องคนรองเป็นหญิงชื่อเหรียญสนิทกันมากกว่าคนอื่น พ.ศ.2451 นายเล็งอายุได้ 55 ปี ก็เกิดเจ็บป่วยตั้งแต่เดือน 8 จนถึงเดือน 11 ตกดึก 12 ต.ค. 2451 นางเหรียญคลอดบุตร นายเล็งทรุดหนักเมื่อทราบข่าวก็อยากไปเยี่ยมนางเหรียญบ้าง ทันใดนั้นก็รู้สึกมีอาการคล้ายกับว่าเคลิ้มสบายแล้วผลอยหลับไป มีความรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่ก็แปลกจะพูดกับใครก็ไม่มีใครพูดด้วย ไม่มีใครหันมามอง สักครู่ใหญ่ญาติคนหนึ่งมาคลำดูที่ปลายเท้านายเล็งจึงทราบว่านายเล็งตายเสียแล้ว นายเล็งตายเมื่อแรม 3 ค่ำเดือน 11 เวลา 15 น. ตั้งศพ 2 วันเผาเสร็จสองทุ่มแยกย้ายกลับบ้าน นายเล็งก็คิดอยากจะไปเยี่ยมนางเหรียญ ซึ่งคลอดลูกกำลังอยู่ไฟ พอนึกเท่านั้นก็ปรากฏว่าไปถึงบ้านนางเหรียญทันที เมื่อถึงบ้านก็เห็นนางเหรียญกำลังนอนกกลูกน้อย เมื่อเห็นทารกนายเล็งก็รู้สึกชอบใจในขณะที่นายเล็งยืนดูทารกอยู่นั้น นางเหรียญตื่นลืมตาเห็นนายเล็งพอดี นายเล็งก็ยิ้มให้ แต่คราวนี้แปลกนางเหรียญกลับเห็นนายเล็ง นางได้พูดว่า “คุณพี่ไปคนละทิศละทางแล้ว ที่ไหนสบายก็เชิญไปตามสบายเถอะ อย่ามารบกวนน้องเลย” นายเล็งรู้สึกละอายใจมากจึงตัดสินใจกลับ แต่พอกลับตัวเท่านั้นก็รู้สึกหมุนติ้วเหมือนลูกข่างไม่ทราบว่ากี่รอบแล้วก็หมดความรู้สึกไปแค่นั้น มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อทารกนั้นพลิกคว่ำพลิกหงายได้ แต่ยังพูดจาไม่ได้ แต่เมื่อเห็นใครที่เคยรู้จักในชาติก่อนก็จำได้ อยากจะพูดกับเขา แต่ก็พูดไม่ได้ เพียงแต่ยกมือและพูดอ้อแอ้ได้เท่านั้น ต่อมาเมื่อพูดได้ก็บอกความจริง ว่าตนคือนาย “เล็ง” ไม่ใช่ชื่อ “โชติ” ดังชาติในชาติปัจจุบัน เป็นลูกของ “พ่อวา แม่มา” ไม่ใช่ “แม่เหรียญ พ่อแป๊ะ” ในชาติปัจจุบัน เมื่อมีคนมาถามว่าชื่ออะไร ก็ตอบว่า “ชื่อนายเล็ง” บ้านอยู่ที่ไหนก็ชี้ถูก มีภรรยาชื่ออะไร ก็ตอบว่า “ชื่อปุ่ม” มีลูกกี่คนก็ตอบว่า “สามคน” เป็นหญิงหรือชาย ก็ตอบว่า “หญิงทั้งหมด” อีกทั้งนางเหรียญก็เคยเล่าให้ญาติ ๆ ฟังว่า เมื่อคืนวันแรม 5 ค่ำเดือน 11 หลังจากฌาปนกิจศพของนายเล็งแล้วคืนนั้นได้เห็นนายเล็งมาปรากฏตัว จึงทำให้คนเชื่อว่า เด็กชายโชติคือนายเล็งมาเกิดและเด็กชายโชติไม่เรียกนางเหรียญว่าแม่แต่เรียกว่าน้อง ส่วนยายก็เรียกว่าแม่ และลูกสาว 3 คนในชาติก่อน จะเรียกเด็กชายโชติว่าพ่อ ถ้าเรียกว่าน้องเด็กชายโชติจะโกรธถึงกับด่าให้เลย เพิ่งจะมาเปลี่ยนมานับถือแบบชาติปัจจุบันเมื่อได้บวชแล้ว แต่ก็ยังพอใจให้ลูกทั้ง 3 คนเรียกว่าพ่อในชาติปัจจุบัน
“ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” มรณะภาพเมื่อ 24 มี.ค.2517 ที่วัดวชิราลงกรณ์วรวิหาร อ.ปากช่อง นครราชสีมา.